เทคนิคการนำเสนอ
+ การนำเสนอจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผู้ฟังเกิดการยอมรับ
และพึงพอใจ จึงต้องใช้วิธีการสร้างสรรค์งานโฆษณา ซึงเป็นกระบวนการ
แนวคิดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์งานโฆษณา
+ เป็นการคิดค้นสร้างสรรค์โฆษณา เพื่อให้ข่าวสาร หรือโน้มน้าวใจ
ให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความอยากได้ และทดลองใช้โฆษณาที่เข้าใจ
และคำนึงถึงความต้องการของบุคคล
+ แนวความคิดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์งานโฆษณา ความตรงประเด็น
มีเอกลักษณ์ และสร้างผลกระทบที่ดี มีความเข้าใจง่าย โดยอาศัยลีลา
ความพร้อมของอารมณ์ และสิ่งจูงใจ ผสานด้วยเทคนิคการนำเสนองานโฆษณา
+ ในการสร้างสรรค์งานโฆษณา .ให้ประสบความสำเร็จ ต้องขึ้นอยู่กับ
1.การวางกลยุทธ์ในการสร้างสรรค์ (Creative Strategy)
2.การนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ในโฆษณา (Creative Execution)
3.การสร้างสรรค์ผลงานให้โดดเด่น มีประสิทธิภาพเหมาะสม (Creative Works)
การวางกลยุทธ์ในการสร้างสรรค์ Brief
1. ชื่อเรื่อง
2. ข้อมูลเบื้องต้น
3. วัตถุประสงค์
4. กลุ่มเป้าหมายหลัก
5. Concept
6. Support
7. Mood & Tone / Personality
8. Desired / Response
แบบสรุปย่อทางการออกแบบ
1. ลูกอมโอเล่ บิวตี้
+ การนำเสนอจะประสบความสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อผู้ฟังเกิดการยอมรับ
และพึงพอใจ จึงต้องใช้วิธีการสร้างสรรค์งานโฆษณา ซึงเป็นกระบวนการ
แนวคิดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์งานโฆษณา
+ เป็นการคิดค้นสร้างสรรค์โฆษณา เพื่อให้ข่าวสาร หรือโน้มน้าวใจ
ให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความอยากได้ และทดลองใช้โฆษณาที่เข้าใจ
และคำนึงถึงความต้องการของบุคคล
+ แนวความคิดเกี่ยวกับการสร้างสรรค์งานโฆษณา ความตรงประเด็น
มีเอกลักษณ์ และสร้างผลกระทบที่ดี มีความเข้าใจง่าย โดยอาศัยลีลา
ความพร้อมของอารมณ์ และสิ่งจูงใจ ผสานด้วยเทคนิคการนำเสนองานโฆษณา
+ ในการสร้างสรรค์งานโฆษณา .ให้ประสบความสำเร็จ ต้องขึ้นอยู่กับ
1.การวางกลยุทธ์ในการสร้างสรรค์ (Creative Strategy)
2.การนำเสนอความคิดสร้างสรรค์ในโฆษณา (Creative Execution)
3.การสร้างสรรค์ผลงานให้โดดเด่น มีประสิทธิภาพเหมาะสม (Creative Works)
การวางกลยุทธ์ในการสร้างสรรค์ Brief
1. ชื่อเรื่อง
2. ข้อมูลเบื้องต้น
3. วัตถุประสงค์
4. กลุ่มเป้าหมายหลัก
5. Concept
6. Support
7. Mood & Tone / Personality
8. Desired / Response
แบบสรุปย่อทางการออกแบบ
1. ลูกอมโอเล่ บิวตี้
2. ข้อมูลเบื้องต้น
หนึ่งในยี่ห้อลูกอมที่อยู่ยงคงกระพันในตลาดขนมของบ้านเรา
คือ ‘โอเล่’ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานกี่ปีกี่เดือน
ตลาดลูกอม ยาดม หมากฝรั่ง จะเปลี่ยนแปลงไปสักเพียงใด
แต่โอเล่ก็แทบจะไม่มีการเปลี่ยนฉลาก
ปรับรส เพิ่มกลิ่น หรือหยอดลูกเล่นแปลกใหม่อะไรเลย
แม้จะไม่ปรับเปลี่ยนอะไรใหม่
แต่โอเล่ก็เป็นเม็ดอมที่มีแฟนคลับคอยตามกรี๊ด ตามเชียร์
ทุกแผงร้านที่ลูกอมสีแดงน่ารัดเม็ดนี้ไปวางขาย
ด้วยบุคลิกส่วนตัวที่แม่ยกประทับใจยามได้อมแอบอยู่ใต้แก้ม
ไม่ว่าจะเป็นรสหวานๆ หรือสีที่ย้อยแดงออกมาแต้มริมฝีปากทุกครั้ง
ที่น้ำลายห้อยไหล แต่แล้วในที่สุด โอเล่ก็คลอดทายาทเป็นคู่แฝดต่างสีผิว
และรสชาติออกมาทีเดียวถึงสองหน่อ สงฆ์ผู้ใหญ่คิดชื่อตั้งให้ว่า
OLE’ Beauty ซึ่งเป็นลูกอมที่แผกต่างไปจากเม็ดอมรุ่นพ่อตั้งแต่หีบห่อยันเนื้อหา
ทั้งสีสัน รูปประกอบ ตัวหนังสือที่ปรากฏอยู่บนแผงลูกอมโอเล่ บิวตี้ ถือเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่
ของลูกอมขวัญใจสาวฉันทนา เพราะมิเพียงรูปประกอบที่สวยงามกระจ่างตา
แต่การพ่วงตัวหนังสือยึกยือที่ผมสันนิษฐานว่าเป็นภาษาญี่ปุ่น เป็นการบ่งบอกที่ชัดแจ้งว่า โอเล่ บิวตี้ต้องการกลุ่มผู้อมเป็นเด็กวัยรุ่นคลื่นลูกใหม่ ซึ่งเทียบสัญชาติโอนย้ายไปเป็นคนญี่ปุ่นกับเกาหลีกว่าค่อนประเทศแล้ว ภาพการ์ตูนลายเส้นญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งแรงตอกย้ำ โฉมฉินคนงามในกรอบวงกลมกำลังเอามือสัมผัสผิวหน้า ต้องการบอกเป็นนัยๆ ว่า สวยงาม เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศเข้าใจกันว่า การกินคอลลาเจนจะทำให้มนุษย์ผู้นั้นโสภาไฉไล นอกนั้นก็เป็นการระดมเอาคุณสมบัติความดีงามที่ครอบจักรวาลมาอยู๋ในลูกอมเม็ดเดียว ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาลศูนย์เปอร์เซ็นต์ สัญลักษณ์ห่วงใยฟัน ว่าอมแล้วไม่ทำให้ฟันผุกร่อน
SWOT
S = ลูกอมซูการ์ฟรี ผสมคลอลาเจนเหมาะสมกับวัยรุ่น
W= ยังไม่เป็นที่รู้จักและมีคู่แข่งสูง
O= เป็นสินค้าแปลกใหม่จากลูกอมประเภทอื่น ๆ
T= นิยมเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นเท่านั้น
3.วัตถุประสงค์
+ ลูกอม โอเล่บิวตี้ อร่อยได้ใจแบบไม่มีน้ำตาล
ลูกอมซูการ์ฟรี กลิ่นผลไม้ มาในรูปแบบแผงใหม่ สดใส
อินเทรนด์กับ 2 กลิ่น กลิ่นสตรอเบอร์รี่ เชอร์เบท,
กลิ่นเบอร์รี่ สแปลช กีวี แอ๊ปเปิ้ล
ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นลูกอมปราศจากน้ำตาลเท่านั้น
แต่ยังผสมคอลลาเจนด้วย
4. กลุ่มเป้าหมาย
+ วัยรุ่นอายุระหว่าง 15-20 ปี
5. Concept
+ อร่อยได้ใจแบบไม่มีน้ำตาล
6. Support
+ เป็นลูกอมที่ไม่ทำให้ฟันผุ เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล
7. Mood & Tone
หนึ่งในยี่ห้อลูกอมที่อยู่ยงคงกระพันในตลาดขนมของบ้านเรา
คือ ‘โอเล่’ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานกี่ปีกี่เดือน
ตลาดลูกอม ยาดม หมากฝรั่ง จะเปลี่ยนแปลงไปสักเพียงใด
แต่โอเล่ก็แทบจะไม่มีการเปลี่ยนฉลาก
ปรับรส เพิ่มกลิ่น หรือหยอดลูกเล่นแปลกใหม่อะไรเลย
แม้จะไม่ปรับเปลี่ยนอะไรใหม่
แต่โอเล่ก็เป็นเม็ดอมที่มีแฟนคลับคอยตามกรี๊ด ตามเชียร์
ทุกแผงร้านที่ลูกอมสีแดงน่ารัดเม็ดนี้ไปวางขาย
ด้วยบุคลิกส่วนตัวที่แม่ยกประทับใจยามได้อมแอบอยู่ใต้แก้ม
ไม่ว่าจะเป็นรสหวานๆ หรือสีที่ย้อยแดงออกมาแต้มริมฝีปากทุกครั้ง
ที่น้ำลายห้อยไหล แต่แล้วในที่สุด โอเล่ก็คลอดทายาทเป็นคู่แฝดต่างสีผิว
และรสชาติออกมาทีเดียวถึงสองหน่อ สงฆ์ผู้ใหญ่คิดชื่อตั้งให้ว่า
OLE’ Beauty ซึ่งเป็นลูกอมที่แผกต่างไปจากเม็ดอมรุ่นพ่อตั้งแต่หีบห่อยันเนื้อหา
ทั้งสีสัน รูปประกอบ ตัวหนังสือที่ปรากฏอยู่บนแผงลูกอมโอเล่ บิวตี้ ถือเป็นการปฏิวัติครั้งใหญ่
ของลูกอมขวัญใจสาวฉันทนา เพราะมิเพียงรูปประกอบที่สวยงามกระจ่างตา
แต่การพ่วงตัวหนังสือยึกยือที่ผมสันนิษฐานว่าเป็นภาษาญี่ปุ่น เป็นการบ่งบอกที่ชัดแจ้งว่า โอเล่ บิวตี้ต้องการกลุ่มผู้อมเป็นเด็กวัยรุ่นคลื่นลูกใหม่ ซึ่งเทียบสัญชาติโอนย้ายไปเป็นคนญี่ปุ่นกับเกาหลีกว่าค่อนประเทศแล้ว ภาพการ์ตูนลายเส้นญี่ปุ่นเป็นอีกหนึ่งแรงตอกย้ำ โฉมฉินคนงามในกรอบวงกลมกำลังเอามือสัมผัสผิวหน้า ต้องการบอกเป็นนัยๆ ว่า สวยงาม เพราะคนส่วนใหญ่ของประเทศเข้าใจกันว่า การกินคอลลาเจนจะทำให้มนุษย์ผู้นั้นโสภาไฉไล นอกนั้นก็เป็นการระดมเอาคุณสมบัติความดีงามที่ครอบจักรวาลมาอยู๋ในลูกอมเม็ดเดียว ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาลศูนย์เปอร์เซ็นต์ สัญลักษณ์ห่วงใยฟัน ว่าอมแล้วไม่ทำให้ฟันผุกร่อน
SWOT
S = ลูกอมซูการ์ฟรี ผสมคลอลาเจนเหมาะสมกับวัยรุ่น
W= ยังไม่เป็นที่รู้จักและมีคู่แข่งสูง
O= เป็นสินค้าแปลกใหม่จากลูกอมประเภทอื่น ๆ
T= นิยมเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นเท่านั้น
3.วัตถุประสงค์
+ ลูกอม โอเล่บิวตี้ อร่อยได้ใจแบบไม่มีน้ำตาล
ลูกอมซูการ์ฟรี กลิ่นผลไม้ มาในรูปแบบแผงใหม่ สดใส
อินเทรนด์กับ 2 กลิ่น กลิ่นสตรอเบอร์รี่ เชอร์เบท,
กลิ่นเบอร์รี่ สแปลช กีวี แอ๊ปเปิ้ล
ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นลูกอมปราศจากน้ำตาลเท่านั้น
แต่ยังผสมคอลลาเจนด้วย
4. กลุ่มเป้าหมาย
+ วัยรุ่นอายุระหว่าง 15-20 ปี
5. Concept
+ อร่อยได้ใจแบบไม่มีน้ำตาล
6. Support
+ เป็นลูกอมที่ไม่ทำให้ฟันผุ เพราะไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล
7. Mood & Tone
สีสัน
สดใส
สนุกสนาน
8. Desired Response
+ ลูกอมปราศจากน้ำตาลไม่ทำให้คุณฟันผุ
+ มีส่วนผสมของคอลลาเจน ทำให้คุณผิวสวย
+ มีส่วนผสมของคอลลาเจน ทำให้คุณผิวสวย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น